Custom Search

วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ปวดฟัน

***เรื่องของฟันครับ ผมไม่เกี่ยวก็เพราะมันเป็นเรื่องของฟัน
อาการปวดฟันก็เหมือนกับมีใครเอาหนามทุเรียน
มาทิ่มตรงเหงือกครับ นอนน้ำลายสอเลยครับ
ที่จริงการรักษาแบบไทยไทยก็ดีนะครับ มีข้อเสีย
ตรงที่ปัจจุบันจะหาสิ่งที่จะนำมาทำยายากมากครับ
แต่ถ้ายังไงก็ลองดูนะครับถ้าไม่อยากไปหาหมอ
ก็ลองสูตรของปู่ ย่า ตา ยาย ไปก่อนก็ได้ครับ
****สูตรแก้ปวดฟันมีอยู่ว่า
ตัวยาที่ต้องใช้มี 3 อย่างครับก็คือ
1.มะเขือขื่น(ไม่ใช่มะเขือเประนะครับ)ส่วนมาจะนำมาทำ
แกงพวกแกงเขียวหวาน ลูกจะเล็กและสีของลาย
จะเข้มกว่ามะเขือเปราะ
2.ยาทัมใจ(แต่ก่อนเรียกยาทันใจ)หรือยาประสาทนอแรด
3.เกลือ
****ให้เราเอาลูกมะเขือขื่นสุก ๑ ลูก(ที่เค้าใช้แกงนั้นแหละครับ)
เจาะที่หัวแล้วนำเอาเมล็ดออกให้หมด
จากนั้นก็ให้เอายาทัมใจ(แต่ก่อนเรียกยาทันใจ)ผม
จะใช้แบบอุดไปเลยครับ
หรืออีกอย่างก็ยาประสาทนอแรดก็ได้ ๑ ส่วน ๔
(เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ จะ ทัมใจ หรือประสาทนอแรด)
นำยาอย่างใดอย่างหนึ่ง บดผสมกับสารส้ม ๒ ส่วน
ยัดใส่ลูกมะเขือขื่นที่เอาเมล็ดออกแล้ว จากนั้นก็ใช้ไม้เสียบ
แล้วนำไปลนไฟรนที่ก้นของลูกมะเขือนะครับ
จนน้ำในมะเขือขื่นนั้นเดือดแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
แล้วใช้สำลีชุบน้ำมะเขือขื่นแล้วนำไปอุดฟันซี่ที่ปวด
ให้อุดไว้ตลอดคืนและเตรียมยาเผื่อไว้อีกนะครับเพราะต้อง
อุดอีกสองถึงสามครั้งอาการปวดฟันจะหายไป
****ยาของคนโบราณแต่รับรองว่าไม่เจ็บเหมือนไปหาหมอ
ปัจจุบัน เพราะถ้ารากฟันเรายังไม่เสียเราก็จะสามารถ
รักษาฟันของเราไว้โดยไม่ต้องถอนออก
รักษาช่องปากให้ดี ๆ นะครับยิ้มจะได้สวย ๆ
สวัสดีครับ
***สวัสดีครับ แล้วอย่าลืมสมัคร yuwie ด้วยนะครับ
สนุกและได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย
ข่าวเอส เอ็ม อี


เรื่องลึกลับ


แชร์รูม

Get your own Chat Box! Go Large!

วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

อาหารใจ

***สุขภาพจะดีต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย
ครับ อาหารดี ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ
รับการรักษาอย่างถูกวิธี และ วิธีให้อาหารใจ
***อาหารใจ อาจฟังดูแล้วยากนะครับแต่หลัก
ทางพุทธศาสนาแล้วเชื่อว่าหลายคนคงพอจะ
เข้าใจและมีบ้างที่ทำอยู่แล้ว แต่คนที่ยังไม่ได้ทำ
หรือยังไม่เข้าใจผมเชื่อว่าน่าจะมีอยู่มาก
***”ใจเป็นประธาน” เชื่อว่าคงเคยได้ยินมาบ้าง
ศาสนาพุทธ มีไว้ว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว”
จึงสำคัญแล้วว่าใจสำคัญที่สุด เพราะเมื่อใจเรา
สบายไม่คิดมาก ไม่เครียดสะสม ไม่มองโลกในแง่ร้าย
ไม่คิดพยาบาทใคร ไม่อิจฉาใคร ไม่ต้องการ
ในสิ่งที่เราไม่มีหรือไม่พร้อมที่จะมี ไม่โลภ
และอื่น ๆ อีกมากครับ
***การรักษาจิตใจให้สงบ ระงับ และไม่คิดฟุ้งซ่าน
ทำได้ง่าย ๆ ครับ ก็ด้วยการทำสมาธิในทุกเวลาที่
จิตใจเราเริ่มหว้าวุ้น หรือ เริ่มรุ่มร้อน
ก็ให้นึกทันว่า ใจเรารุ่มร้อนแล้วนะ เท่านี้แหละครับ
เพราะศาสนาพุทธสอนให้เรารู้ว่า
เรารู้สึกอย่างไรในขณะหนึ่ง โดยให้รู้เท่าทัน
ว่าตอนนี้เรารู้สึกอย่างไร โกรธ เกลียด
โมโห อยากได้ ก็ให้เรารู้ว่าตอนนี้เป็น
อย่างนี้นะ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปหาสาเหตุ
เราเพียงแต่ว่าเมื่อรู้ ก็ให้ทำการระงับ
อย่าให้คิดหรือ ทำไปมากกว่านี้ก็พอแล้วครับ
***การให้อาหารใจก็คือการทำให้ใจได้
พักผ่อน ไม่วิตก ไม่ฟุ้งซ่าน เราไม่จำเป็น
ต้องนั่งสมาธิก็ได้ถ้าเรายังไม่พร้อม
แต่ให้เราค่อย ๆ ตามดูใจเราว่าตอนนี้เป็นอย่างไร
คิดอย่างไร แล้วค่อย ๆ ตะล่อมให้กลับมา
อยู่ในที่เดิม ก็คือทำให้ค่อยๆเย็นลง
***เมื่อเราโกรธก็ให้รู้ว่าโกรธ แล้วเริ่ม
หายใจเข้า ออก ช้า ๆ ค่อยผ่อนคลาย
ความคิดว่าจะโกรธนั้น ให้เบาลง ๆ
เป็นต้น
***เห็นไหมครับว่าพระพุทธศาสนาของ
พระพุทธเจ้าที่ทรงตรัสสอนไว้เป็นอาหาร
ทิพย์ที่หัวใจหรือจิตใจเราต้องการที่สุด
เพราะเมื่อจิตใจเราปรกติ ทุกอย่างก็
จะไม่มีอะไรที่จะเข้าเบียดเบียนร่างกาย
ของเราได้
***ให้สิ่งดี ๆ กับจิตใจ ก็จะแต่สิ่งดี ๆ
ตอบแทนกลับมาที่ร่างกาย คิดดี
ผิวพรรณก็จะงามเปล่งปลังไม่ต้องมา
นั่งใช้เครื่องสำอาง ลดความอิจฉา
ก็จะทำให้มีผู้อยากที่จะเข้ามาพูด
มาทักทาย วาจาไพเราะ ก็จะให้ผู้
อื่นเกรงใจ ถ้ารู้จักให้อภัยก็จะทำให้
ผู้อื่นนับถือ
***ก็ขอให้มีสติกันทุกคนนะครับ คิดก่อนทำ
และอย่างพูดก่อนคิด จะทำให้เสียกิจ และ
เสียเพื่อนได้ สวัสดีครับ

***สวัสดีครับ แล้วอย่าลืมสมัคร yuwie ด้วยนะครับ
สนุกและได้ฝึกภาษาอังกฤษด้วย
ข่าวเอส เอ็ม อี


เรื่องลึกลับ


แชร์รูม

Get your own Chat Box! Go Large!

เทคโนโลยีกับโลกยุคดิจิตอล

Signup to AlertPay today

เปิดบัญชีออนไลน์เพียงแค่ใช้ email ก็สามารถเปิดใช้ AlertPay ได้แล้วครับ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย