Custom Search

วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2552

โรคต้อกระจก

*****ต้อกระจก
คือภาวะที่แก้วตาหรือเลนส์ลูกตาเกิดขุ่นขาวผิดปรกติไปจากธรรมดา
โดยปรกติแล้วตาจะใส มีหน้าที่ในการปรับ หรือ หัก
เหแสง จากวัตถุต่าง ให้ตกลงที่จอรับภาพหรือ
จอประสาทพอดี เมื่อมีการขุ่นของเลนส์ลูกตา
จะทำให้การมองภาพไม่ชัดเจน และสายตามัวลงเรื่อย ๆ
***สาเหตุ
๑.เป็นมาแต่กำเนิด ในกรณีที่มารดาป่วยเป็นหัดเยอรมัน
ขณะที่ตั้งครรภ์ในระยะ ๓ เดือนแรก
๒.อุบัติเหตุ ต่อลูกตา เช่น ถูกกระแทก
ถูกของมีคม เป็นต้น
๓.เลนส์แก้วตาเสื่อมลงตามอายุ หรือต้อกระจก
วัยชรา
๔.เป็นร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน หรือ
เป็นโรคทีเกิดตามหลังจาการเป็นโรคทางตา
เช่น ม่านตาอักเสบ แผลที่กระจกตาดำ
****อาการ
๑.สายตาม้วลงเรื่อย ๆมองเห็นเป็นฝ้า หมอก มัว
ขาว ๆ โดยไม่มีอาการปวดตา
๒.สายตามองเห็นดีในที่ร่ม แต่มัวลงในทีสว่าง
๓.ถ้าเป็นมากจะเห็นบริเวณรูม่านตาเป็นสีขาวคล้ายน้ำนม
****การรักษา
โรคต้อกระจก ปัจจุบันทำการรักษาได้โดยไม่ยุ่งยาก
และรวดเร็ว แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาเลนส์แก้วตา
ที่ขุ่นออก และฝังเลนส์แก้วตาเทียม ซึ่งจัดเตรียม
ไว้เฉพาะผู้ป่วยแต่ละรายเข้าไปแทนที่ ซึ่งจะช่วยให้
การมองเห็นภายหลังการผ่าตัดใกล้เคียงธรรมซาติ
และผู้ป่วยต้องอยู่โรงพยาบาลประมาณ ๒-๓ วัน
****คำแนะนำ
๑.ต้อกระจกต้องรักษากับจักษุแพทย์โดยเฉพาะ เพราะ
ไม่มียาที่จะรักษาให้หายได้นอกจากการผ่าตัด
๒.อย่ารักษากับหมอเถื่อน เพราะหมอเถื่อนจะใช้
วิธีเขี่ยเลนส์แก้วตาที่ขุ่นให้ตกลงไปในน้ำวุ้น
หลังลูกตา ผู้ป่วยจะมองเห็นดีขึ้นทันที แต่ภายหลัง
จะเกิดต้อหิน หรือเกิดลูกตาติดเชื้อเป็นอันตราย
ถึงกับตาบอดได้
****การปฏิบัติก่อนการผ่าตัด
แพทย์จะนัดผู้ป่วยมานอนโรงพยาบาลก่อนวันผ่าตัด
๑ วัน ผู้ป่วยควรหัดคลุมโปงวันละประมาณ ๑ ชั่วโมง
เพื่อให้คุ้นเคยเพราะขณะผ่าตัดจะต้องนอนนิ่ง ๆ
มีผ้าคลุมศีรษะและให้หน้า ใช้เวลาประมาณ ๔๕
นาที ในการผ่าตัดและเตรียมการดังนี้
๑.เซ็นใบยินยอมอนุญาตให้แพทย์ทำการรักษา
๒.ในตอนเย็นก่อนการผ่าตัด ให้ทำความสะอาด ร่างกาย
สระผม โกนหนวดเครา เล็บควรตัดให้สั้นและ
ไม่ควรทาสีเล็บ
๓.ถ้ามียาที่ต้องใช้เป็นประจำต้องนำไปด้วย
๔.ไม่ควรนำของมีค่ามาโรงพยาบาล
๕.เช้าก่อนวันผ่าตัด ฝอกหน้าให้สะอาด พยาบาล
จะหยอดยาตามแพทย์สั่ง และอาจให้ตัดขนตา
ข้างที่จะทำการผ่าตัดออก
๖.ทำจิดใจให้สบาย ไม่ต้องวิตกกังวลใด ๆ
นอนหลับให้เพียงพอ
๗.ถ้ามีอาการหวัด จาม ไอ มีอาการผิดปกติใด ๆ
ควรบอกแพทย์ หรือพยาบาลก่อนการผ่าตัดเพื่อ
จะได้ทำการรักษา เพื่อไม่เกิดอันตรายขณะทำการผ่าตัด
****ข้อปฏิบัติหล้งการผ่าตัด
๑.หลังผ่าตัดวันแรกควรนอนพักผ่อนให้มาก ๆ ห้ามนอน
ตะแคงข้างที่ทำการผ่าตัด ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน
สามารถลุกเดินเข้าห้องน้ำได้
๒.ตาข้างที่ผ่าตัดจะมีผ้าปิด และครอบตาเอาใว้
ห้ามแกะออก ห้ามขยี้ตา
๓.ไม่ควรก้มหน้ามากหรือสั่นศีรษะแรง ๆ จะทำกระทบ
กระเทือนตาได้
๔.หลังผ่าตัดวันแรกรับประทานอาหารได้ตามปกติและ
ควรเป็นอาหารที่เคี้ยวง่าย ไม่แข็งหรือเหนียว
๕.อาบน้ำได้ แต่บริเวณใบหน้าให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด
เวลาแปรงฟันให้แปรงเบา ๆ ห้ามสั่นศีรษะไปด้วย
ห้ามสระผมเอง ให้นอนสระผม
๖.งดสูบบุหรี่ หรือ เคี้ยวหมาก
๗.ถ้ามีอาการท้องผูก ไม่ควรเบ่งถ่ายอุจาระ ให้รับประทาน
ผัก ผลไม้และดื่มน้ำมาก ๆ (ถ้าไม่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำ)
****ข้อปฏิบัติเมื่อกลับบ้าน
๑.เช็ดตาวันละครั้ง ก่อนเช็ดควรล้างมือ
ให้สะอาดทุกครั้ง โดยใช้สำลีชุบน้ำต้มสุก
ที่เย็นแล้วบีบผ้าให้หมาดเช็ดจากหัวตาไป
หางตาแล้วทิ้ง ถ้ามีขี้ตาให้ใช้สำลีก้อนใหม่
๒.การหยอดตาใช้มือที่สะอาดดึงเปลือกตา
ล่างลงแล้วหยอดยาลงบริเวณขอบตาล่าง
ระวังอย่าให้ถูกตาดำเพราะจะทำให้เกิดอาการ
ระคายเคือง อักเสบได้ แล้วปิดตาที่ครอบ
ไว้เหมือนเดิม
๓.ถ้าที่ครอบตาสกปรกให้ล้างด้วยน้ำสบู่และ
น้ำสะอาด เช็ดให้แห้ง ให้ครอบตาไว้ตลอด
จนกว่าแพทย์จะอนุญาตให้เอาออกได้
ประมาณ ๔-๕ อาทิตย์
๔.ใช้ยาให้ถูกต้องตามแพทย์สั่ง ไม่ใช้ยาหยอดตา
ร่วมกับผู้อื่นและหยอดข้างที่แพทย์สั่งเท่านั้น
๕.อาบน้ำได้ตามปกติ การล้างหน้าควรใช้ผ้าเช็ด
๖.ห้ามขยี้ตา
๗.งดทำงานหน้ก
๘.พักตามาก ๆ
๙.รับประทานอาหารได้ตามปรกติ
งดเดินทางไกลในระยะ ๒ เดือนแรกและ
มาตามแพทย์นัดทุกครั้งหรือเมื่อมีอาการผิดปรกติ
***ตาเป็นสิ่งที่จำเป็นนะครับดังนั้นต้องดูแล
ให้ดีและอย่าประมาทอะไรที่เกี่ยวกับตาต้องระวัง
-----แล้วพบกันใหม่ครับ

เทคโนโลยีกับโลกยุคดิจิตอล

Signup to AlertPay today

เปิดบัญชีออนไลน์เพียงแค่ใช้ email ก็สามารถเปิดใช้ AlertPay ได้แล้วครับ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย