Custom Search

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ร้อนใน

***อาการ ร้อนใน
คำว่า ร้อนใน คนรุ่นใหม่คง งง แต่รุ่นผมมันเป็น
อะไรที่น่ารำคาญมาก ๆ เนื่องจาก อาการที่เจ็บคอ
ปวดตา หรือแม้กระทั่งอาการ ปวดหัวแบบตึ๊บ ๆ
ร่างกายก็ไม่ใคร่จะสบายนัก
****สมัยนี้แม้มียากินหรือไปหาหมอได้เดี๋ยวก็หาย
แต่ถ้าเรารักษาตัวของเราเองจะไม่ดีกว่าหรือครับ
อาการร้อนใน เนี่ยะ รักษาไม่ยากครับ สาเหตุมา
จากธาตุในร่างกาย ไม่สมดุลจึงทำให้เกิดอาการ
ที่ร้อนวูบวาบ
****ช่วงตอนเป็นเด็กเรื่องเจ็บป่วยส่วนจะรักษากัน
เอง แม่ผมจะรักษาให้เสมอ และหายด้วยไม่ต้องใช้
ยา ไม่ต้องไปหาหมอ รักษาแบบง่ายๆ ด้วยอาหาร
ที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี่ล่ะครับ
****ถ้าคุณมีอาการร้อนในแล้วละก็ ขอแนะนำ
เมนูอาหารนี้เลยครับ
1.ต้มมะระครับ หรือแกงจืดมะระนี่ล่ะครับ
แม้จะขมแต่ให้ประโยชน์มากในการรักษา เพราะ
มีสรรพคุณเป็นธาตุเย็น ชดแต่น้ำก็ได้ในกรณีที่
คุณไม่ชอบเนื้อที่ขม ๆ แต่ถ้ากินเนื้อได้ก็จะยิ่งดี
รับประกัน หายภายใน 1 วัน
2.ต้มฝัก หรือ แกงจืดฝักเขียว
จะใส่หรือไม่ใส่ กระดูกหมูก็ได้ ก็รับประทาน
กันกับข้าวได้เลย แต่ควรชดน้ำให้ชุปให้มาก ๆ
หรือกินเนื้อฝักได้ด้วยยิ่งดีอร่อยแถมหายไวอีกด้วย
3.ของหวานครับ ถั่วเขียวต้ม อย่าใส่น้ำตาล
ทรายเยอะนะครับ ให้ใส่เพียงแค่ให้มีรสหวาน
หน่อยก็พอ และต้องเป็นน้ำตาลทรายแดง
ด้วยนะครับ ใส่เกลือลงไปด้วย
4.อ้นก็แน่ครับ กินมาตั้งแต่เด็กๆเลยแต่คงหา
ยากมากในสมัยนี้ พระเอกก็คือ “ฝอยทอง” ครับ
อันนี้ไม่ใช่ขนมฝอยทองนะครับ แต่เป็น
“ฝอยทอง” ที่เกาะอยู่บนยอดของต้น “เหงือกปลาหมอ”
ครับ เป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ตามพื้นที่ชุ่มน้ำครับแถว
บ้านผมแต่ก่อนมีเยอะมาก “สมุทรปราการ” แต่ตอนนี้
ไม่เห็นแล้วครับถึงมีต้นเหงือกปลาหมอแต่ก็
หา “ฝอยทอง” ได้ยากมากเพราะโรงงาน
เยอะ ทำให้ดินที่นั่นเสียไปเยอะครับ
วิธีรับประทาน(ใช้คำซะขนลุกเลย)ก็ต้มครับ
แต่ก่อนต้มก็ต้องล้างให้สะอาดก่อนนะครับ
ต้มจนน้ำออกสีเหลือง เหมือนน้ำ “เก๊กฮวย”ก็
ทำการเติมน้ำทรายแดง(ย้ำว่าน้ำตาลทรายแดง)
แล้วชิมว่าหวานพอไหม รสชาติจะออกแบบน้ำ
เก๊กฮวย คือเหมือนกันมาก ๆ เลย กินต่างน้ำ
ครับไม่ต้องเข้าตู้เย็นนะครับ กินตอนร้อนจึง
จะดี ส่วนเส้นของฝอยทองก็นำมากินกับน้ำ
พริกได้ครับ
****ช่วงเป็นเด็กเป็นที่ไร แม่ ต้องให้ไปหามา
ทุกทีครับ หาง่ายมากออกมาหน้าปากซอยก็เจอ
เลย แต่ตอนนี้ไม่มีแล้วเห็นมีแต่ต้น
***รักแม่ให้มาก ๆ นะครับ นึกว่าแกทำอะไร
ให้เราตอนเด็ก ๆ แล้วคุณจะรักท่านมากขึ้นเยอะ
แล้วจะนำสิ่งที่ดีต่อสุขภาพมาฝากกันอีก ที่ แม่
เคยสอนไว้มีอีกมากครับ
****ขอให้มีสุขภาพดีกันถ้วนหน้านะครับ

วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2552

โรคต้อกระจก

*****ต้อกระจก
คือภาวะที่แก้วตาหรือเลนส์ลูกตาเกิดขุ่นขาวผิดปรกติไปจากธรรมดา
โดยปรกติแล้วตาจะใส มีหน้าที่ในการปรับ หรือ หัก
เหแสง จากวัตถุต่าง ให้ตกลงที่จอรับภาพหรือ
จอประสาทพอดี เมื่อมีการขุ่นของเลนส์ลูกตา
จะทำให้การมองภาพไม่ชัดเจน และสายตามัวลงเรื่อย ๆ
***สาเหตุ
๑.เป็นมาแต่กำเนิด ในกรณีที่มารดาป่วยเป็นหัดเยอรมัน
ขณะที่ตั้งครรภ์ในระยะ ๓ เดือนแรก
๒.อุบัติเหตุ ต่อลูกตา เช่น ถูกกระแทก
ถูกของมีคม เป็นต้น
๓.เลนส์แก้วตาเสื่อมลงตามอายุ หรือต้อกระจก
วัยชรา
๔.เป็นร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน หรือ
เป็นโรคทีเกิดตามหลังจาการเป็นโรคทางตา
เช่น ม่านตาอักเสบ แผลที่กระจกตาดำ
****อาการ
๑.สายตาม้วลงเรื่อย ๆมองเห็นเป็นฝ้า หมอก มัว
ขาว ๆ โดยไม่มีอาการปวดตา
๒.สายตามองเห็นดีในที่ร่ม แต่มัวลงในทีสว่าง
๓.ถ้าเป็นมากจะเห็นบริเวณรูม่านตาเป็นสีขาวคล้ายน้ำนม
****การรักษา
โรคต้อกระจก ปัจจุบันทำการรักษาได้โดยไม่ยุ่งยาก
และรวดเร็ว แพทย์จะทำการผ่าตัดเอาเลนส์แก้วตา
ที่ขุ่นออก และฝังเลนส์แก้วตาเทียม ซึ่งจัดเตรียม
ไว้เฉพาะผู้ป่วยแต่ละรายเข้าไปแทนที่ ซึ่งจะช่วยให้
การมองเห็นภายหลังการผ่าตัดใกล้เคียงธรรมซาติ
และผู้ป่วยต้องอยู่โรงพยาบาลประมาณ ๒-๓ วัน
****คำแนะนำ
๑.ต้อกระจกต้องรักษากับจักษุแพทย์โดยเฉพาะ เพราะ
ไม่มียาที่จะรักษาให้หายได้นอกจากการผ่าตัด
๒.อย่ารักษากับหมอเถื่อน เพราะหมอเถื่อนจะใช้
วิธีเขี่ยเลนส์แก้วตาที่ขุ่นให้ตกลงไปในน้ำวุ้น
หลังลูกตา ผู้ป่วยจะมองเห็นดีขึ้นทันที แต่ภายหลัง
จะเกิดต้อหิน หรือเกิดลูกตาติดเชื้อเป็นอันตราย
ถึงกับตาบอดได้
****การปฏิบัติก่อนการผ่าตัด
แพทย์จะนัดผู้ป่วยมานอนโรงพยาบาลก่อนวันผ่าตัด
๑ วัน ผู้ป่วยควรหัดคลุมโปงวันละประมาณ ๑ ชั่วโมง
เพื่อให้คุ้นเคยเพราะขณะผ่าตัดจะต้องนอนนิ่ง ๆ
มีผ้าคลุมศีรษะและให้หน้า ใช้เวลาประมาณ ๔๕
นาที ในการผ่าตัดและเตรียมการดังนี้
๑.เซ็นใบยินยอมอนุญาตให้แพทย์ทำการรักษา
๒.ในตอนเย็นก่อนการผ่าตัด ให้ทำความสะอาด ร่างกาย
สระผม โกนหนวดเครา เล็บควรตัดให้สั้นและ
ไม่ควรทาสีเล็บ
๓.ถ้ามียาที่ต้องใช้เป็นประจำต้องนำไปด้วย
๔.ไม่ควรนำของมีค่ามาโรงพยาบาล
๕.เช้าก่อนวันผ่าตัด ฝอกหน้าให้สะอาด พยาบาล
จะหยอดยาตามแพทย์สั่ง และอาจให้ตัดขนตา
ข้างที่จะทำการผ่าตัดออก
๖.ทำจิดใจให้สบาย ไม่ต้องวิตกกังวลใด ๆ
นอนหลับให้เพียงพอ
๗.ถ้ามีอาการหวัด จาม ไอ มีอาการผิดปกติใด ๆ
ควรบอกแพทย์ หรือพยาบาลก่อนการผ่าตัดเพื่อ
จะได้ทำการรักษา เพื่อไม่เกิดอันตรายขณะทำการผ่าตัด
****ข้อปฏิบัติหล้งการผ่าตัด
๑.หลังผ่าตัดวันแรกควรนอนพักผ่อนให้มาก ๆ ห้ามนอน
ตะแคงข้างที่ทำการผ่าตัด ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน
สามารถลุกเดินเข้าห้องน้ำได้
๒.ตาข้างที่ผ่าตัดจะมีผ้าปิด และครอบตาเอาใว้
ห้ามแกะออก ห้ามขยี้ตา
๓.ไม่ควรก้มหน้ามากหรือสั่นศีรษะแรง ๆ จะทำกระทบ
กระเทือนตาได้
๔.หลังผ่าตัดวันแรกรับประทานอาหารได้ตามปกติและ
ควรเป็นอาหารที่เคี้ยวง่าย ไม่แข็งหรือเหนียว
๕.อาบน้ำได้ แต่บริเวณใบหน้าให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด
เวลาแปรงฟันให้แปรงเบา ๆ ห้ามสั่นศีรษะไปด้วย
ห้ามสระผมเอง ให้นอนสระผม
๖.งดสูบบุหรี่ หรือ เคี้ยวหมาก
๗.ถ้ามีอาการท้องผูก ไม่ควรเบ่งถ่ายอุจาระ ให้รับประทาน
ผัก ผลไม้และดื่มน้ำมาก ๆ (ถ้าไม่มีข้อจำกัดเรื่องน้ำ)
****ข้อปฏิบัติเมื่อกลับบ้าน
๑.เช็ดตาวันละครั้ง ก่อนเช็ดควรล้างมือ
ให้สะอาดทุกครั้ง โดยใช้สำลีชุบน้ำต้มสุก
ที่เย็นแล้วบีบผ้าให้หมาดเช็ดจากหัวตาไป
หางตาแล้วทิ้ง ถ้ามีขี้ตาให้ใช้สำลีก้อนใหม่
๒.การหยอดตาใช้มือที่สะอาดดึงเปลือกตา
ล่างลงแล้วหยอดยาลงบริเวณขอบตาล่าง
ระวังอย่าให้ถูกตาดำเพราะจะทำให้เกิดอาการ
ระคายเคือง อักเสบได้ แล้วปิดตาที่ครอบ
ไว้เหมือนเดิม
๓.ถ้าที่ครอบตาสกปรกให้ล้างด้วยน้ำสบู่และ
น้ำสะอาด เช็ดให้แห้ง ให้ครอบตาไว้ตลอด
จนกว่าแพทย์จะอนุญาตให้เอาออกได้
ประมาณ ๔-๕ อาทิตย์
๔.ใช้ยาให้ถูกต้องตามแพทย์สั่ง ไม่ใช้ยาหยอดตา
ร่วมกับผู้อื่นและหยอดข้างที่แพทย์สั่งเท่านั้น
๕.อาบน้ำได้ตามปกติ การล้างหน้าควรใช้ผ้าเช็ด
๖.ห้ามขยี้ตา
๗.งดทำงานหน้ก
๘.พักตามาก ๆ
๙.รับประทานอาหารได้ตามปรกติ
งดเดินทางไกลในระยะ ๒ เดือนแรกและ
มาตามแพทย์นัดทุกครั้งหรือเมื่อมีอาการผิดปรกติ
***ตาเป็นสิ่งที่จำเป็นนะครับดังนั้นต้องดูแล
ให้ดีและอย่าประมาทอะไรที่เกี่ยวกับตาต้องระวัง
-----แล้วพบกันใหม่ครับ

เทคโนโลยีกับโลกยุคดิจิตอล

Signup to AlertPay today

เปิดบัญชีออนไลน์เพียงแค่ใช้ email ก็สามารถเปิดใช้ AlertPay ได้แล้วครับ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย